อยากเลี้ยงแมวให้เหมาะกับตัวเอง ทาสแมว มือใหม่ จำเป็นต้องรู้อะไรบ้าง

ทาสแมว คำนี้สำหรับคนที่รักน้องแมวเป็นชีวิตจิตใจ สำหรับทาสมือใหม่ต้องมาทำความรู้จักกับน้องกันก่อน

แมว เป็นสัตว์ที่รักอิสระ ที่มีความน่ารัก ขี้เล่น และเป็นสัตว์ที่รักความสะอาด ดังนั้นแมวจึงเป็นสัตว์เลี้ยงยอดนิยมที่คนเลือกนำมาเลี้ยง และจำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมสำหรับผู้เลี้ยงแมวมือใหม่ ก่อนที่จะทำการเลือกแมวมาเลี้ยงนั้น สิ่งแรกที่ต้องตัดสินใจไม่ใช่ว่าจะเลือกตัวไหนมาเลี้ยงดี แต่ต้องติดสินใจว่าเหมาะสมที่จะเลี้ยงแมวหรือไม่ โดยคำนึงถึงปัจจัยหลายๆ อย่าง เช่น การให้เวลาเลี้ยงดูเจ้าแมวเหมียว การให้อาหาร การทำความสะอาดกระบะทราย รวมทั้งค่าใช้จ่ายต่างๆ เป็นต้น

หากตัดสินใจได้แล้วว่าคุณนั้นเหมาะสมกับการเลี้ยงน้องแมวเหมียว ควรหาข้อมูลเกี่ยวกับการเลี้ยงแมวเพื่อลดข้อผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้

ต้องมีวิธีการเลือกลูกแมวเหมียวให้เหมาะกับตัวเอง

ทาสแมว เมื่อตัดสินใจจะซื้อแมวมาเลี้ยง สิ่งสำคัญคือการเลือกแมวให้เหมาะสมและตรงความต้องการมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นสายพันธุ์ เพศ และอายุ

  1. สายพันธุ์
    ควรทำการศึกษาลักษณะของแมวในแต่ละสายพันธุ์ เพื่อให้ได้แมวที่มีลักษณะและนิสัยที่ตรงตามความต้องการและเหมาะสมกับตัวคุณ รวมถึงการดูแลรักษาสุขภาพของแมวในแต่ละสายพันธุ์ เช่น แมวขนยาว จำเป็นต้องได้รับการดูแล และทำความสะอาดขนมากกว่าแมวขนสั้น เป็นต้น
  2. เพศ
    แมวตัวผู้จะมีนิสัยชอบหนีออกจากบ้าน จึงเหมาะกับเจ้าของที่ไม่ค่อยมีเวลาดูแลและเอาใจมากนัก ส่วนแมวเพศเมียนิสัยค่อนข้างติดบ้านไม่เหมือนแมวตัวผู้ ดังนั้นจึงเหมาะสำหรับเจ้าของที่มีเวลาว่างส่วนใหญ่อยู่บ้าน
  3. สุขภาพของแมว
    ควรเลือกแมวที่มีสุขภาพแข็งแรง ขนสะอาดปราศจากเห็บหมัด ผิวหนังไม่มีแผลหรือการอักเสบ ดวงตาสดใสเป็นประกายไม่มีขี้ตาเกรอะกรัง จมูกไม่มีน้ำมูกหรือคราบน้ำมูก ไม่มีอาการไอหรือหายใจหอบ ปาก และเหงือกสีชมพูไม่มีกลิ่น ฟันขาวสะอาด หูสะอาด ไม่มีขี้หูเป็นคราบดำ หรือไรหู บริเวณรอบทวารหนักต้องสะอาดไม่มีคราบอุจจาระเกรอะกรัง หากมีคราบอุจจาระเลอะติดกันอยู่แสดงว่าแมวอาจมีอาการถ่ายเหลว ซึ่งแสดงว่าแมวอาจป่วยจากการติดเชื้อในทางเดินอาหารได้ ผู้เลี้ยงแมวส่วนใหญ่มักจะกังวลว่าลูกแมวที่นำมาเลี้ยงนั้น จะเชื่องกับเราหรือไม่ ให้สังเกตพฤติกรรมของลูกแมว ถ้าพบว่าลูกแมวดูตื่นกลัวจนตัวสั่น หรือขู่ตลอด แสดงว่าลูกแมวนั้นจำเป็นต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษในการเลี้ยงให้เชื่อง หรือให้เชื่อฟังเจ้าของ โดยลักษณะของลูกแมวแบบนี้ไม่เหมาะสมสำหรับผู้เลี้ยงแมวมือใหม่ ควรให้ผู้ที่มีประสบการณ์ในการเลี้ยงแมวมาก่อนเป็นผู้เลี้ยงดู
  4. อายุ
    สำหรับผู้เลี้ยงแมวมือใหม่ที่มีความพร้อม และมีเวลาดูแลเอาใจใส่ ควรเลี้ยงแมวตั้งแต่ยังเป็นลูกแมว เนื่องจากฝึกสอนได้ง่าย แต่สำหรับผู้เลี้ยงที่ไม่ค่อยมีเวลามากนัก ควรเลือกแมวที่โตแล้วมาเลี้ยงดีกว่า เนื่องจากไม่จำเป็นต้องดูแลเอาใจใส่มากนัก สำหรับอายุลูกแมวที่เหมาะสมในการนำมาเลี้ยงควรอายุตั้งแต่ 8-10 สัปดาห์ขึ้นไป ซึ่งเป็นช่วงที่แมวหย่านมแล้ว และสามารถกินอาหารจากจานได้เอง

ทาสแมว ต้องทราบข้อปฏิบัติเมื่อเริ่มนำแมวมาเลี้ยง

แมวเป็นสัตว์ที่มีความจำค่อนข้างดี ดังนั้นมันจะจำได้ว่าใครที่ใจดีหรือใจร้ายกับเขา หากคุณทำร้ายแมว เขาจะจดจำทันทีว่าคุณเป็นคนไม่ดี และจะพยายามหลีกเลี่ยงไม่ยุ่งกับคุณ แต่หากคุณรักและดูแลแมวอย่างดี เขาจะจดจำว่าคุณเป็นเพื่อนของเขา และจะประพฤติตัวดีกับคุณ ดังนั้นเมื่อคุณนำแมวใหม่เข้ามาเลี้ยงควรปล่อยให้แมวทำความคุ้นเคยกับสถานที่ก่อนในวันแรก โดยผู้เลี้ยงควรเอาใจใส่ อย่าดุหรือเสียงดังจนเกินไป แต่อย่างไรก็ตามไม่ควรกักขังแมวไว้แต่ในบ้าน ควรพาออกไปเดินเล่นนอกบ้านบ้าง เพื่อให้แมวไม่กลัวและมีสังคมกับแมวตัวอื่น นอกจากนี้สิ่งสำคัญมากอีกอย่างที่ผู้เลี้ยงต้องทำเมื่อนำแมวใหม่มาเลี้ยงคือ การสร้างภูมิคุ้มกันโรค และการถ่ายพยาธิ

แมวส่วนใหญ่ไม่ชอบอาบน้ำ แต่แมวเป็นสัตว์ที่รักสะอาด ดังนั้นแมวจะเลียทำความสะอาดตนเอง อย่างไรก็ตามแม้ว่าแมวจะทำความสะอาดตัวเองได้ เจ้าของควรแบ่งเวลามาหวีขนให้แมวด้วย เนื่องจากการหวีขนนั้นจะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการกลืนก้อนขนลงไปในขณะที่แมวเลียทำความสะอาดตนเอง

การให้อาหารแมวควรขึ้นอยู่กับอายุและน้ำหนักตัว ลูกแมวควรได้รับอาหารที่เพียงพอซึ่งจะช่วยในการเจริญเติบโต โดยแมวจะชอบเนื้อวัว เนื้อปลา ผัก นม ชีส และถั่ว หรือควรให้แมวทานอาหารสำเร็จรูปที่ผลิตขึ้นสำหรับแมวโดยเฉพาะ เนื่องจากมีสารอาหารที่เพียงพอและเหมาะสมกับแมว

ของใช้ที่จำเป็นสำหรับการเลี้ยงแมว

  1. ที่ใส่น้ำ และที่ใส่อาหาร
  2. ส้วมแมว หรือกระบะทราย และทรายอนามัย ผู้เลี้ยงควรเลือกที่เป็นพลาสติก ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 14 นิ้ว ลึก 4 นิ้ว ลึก 4 นิ้ว และมีขอบสูงเพื่อกันทรายกระจายเวลาแมวกลบ ควรทำความสะอาดกระบะทรายเพื่อความสะอาดของแมว และป้องกันไม่ให้มีกลิ่นเหม็น
  3. ที่นอนแมว การเลี้ยงแมวในบ้านควรมีมุมที่อบอุ่นและอากาศถ่ายเทสำหรับจัดเป็นที่ให้แมวนอน
  4. ที่ลับเล็บ เพื่อป้องกันไม่ให้แมวของคุณทำลายเฟอร์นิเจอร์ หรือของใช้ของคุณภายในบ้าน
  5.  แมวเป็นสัตว์ที่รักและมีความสุขกับการเล่น ดังนั้นของเล่นจึงเป็นสิ่งจำเป็นในการเลี้ยงดู เช่น ลูกบอล หนูสปริง ขนนก เป็นต้น

เรื่องลับๆ 17 ข้อ ของแมวที่อาจยังไม่เคยรู้

1. แมวมีเซนส์อันยอดเยี่ยมเกี่ยวกับเรื่องแผ่นดินไหว

เนื่องจากใต้อุ้งเท้าของแมวค่อนข้างเซนซิทีฟ ดังนั้นแมวทุกตังจึงสามารถรู้ล่วงหน้าได้ว่า จะมีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นหรือไม่อย่างไร ส่วนคุณเองก็สามารถรับรู้ได้เช่นกัน โดยสังเกตได้จากพฤติกรรมแปลกๆ หรือแตกต่างออกไปจากเดิมนั่นเอง และด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้มีคนบางกลุ่มใช้อุ้งเท้าแมวในการหาค้นหาเหตุแผ่นดินไหวจากแรงสะเทือนด้วย

2. กลืนและย่อยอาหารได้โดยไม่ต้องเคี้ยว

อีกหนึ่งเรื่องที่น่าสนใจไม่แพ้กันก็คือ กระเพาะของแมวสามารถย่อยและดูดกลืนอาหารได้โดยไม่ต้องเคี้ยว ซึ่งถือเป็นข่าวดีมากทีเดียวสำหรับเจ้า ลิล บับ (Lil Bub) หนึ่งในแมวเซเลบชื่อดังจากโลกออนไลน์ เพราะมันเป็นแมวที่ไม่มีฟันตั้งแต่กำเนิด จะได้ไม่มีอะไรให้กังวล

3. แมวเป็นนายที่แท้จริงของบ้าน

เพราะแมวสามารถเปล่งโทนเสียงเพื่อใช้ควบคุมพฤติกรรมของคนได้ อย่างเช่น ในเวลาที่แมวต้องการจะกินอาหาร มันก็จะใช้โทนเสียงที่ฟังคล้ายๆ กับเสียงร้องไห้ออกมา เพื่อเป็นการกระตุ้นคุณให้เอาอาหารให้มันเร็วขึ้น เป็นต้น

 4. แมวก็มีฝันเหมือนกัน

ความฝัน มักจะเกิดขึ้นเมื่อแมวอยู่ในภาวะผ่อนคลาย และสบายตัวมากพอที่จะทำให้พวกมันหลับลึก โดยในช่วงดังกล่าวแมวจะมีการสร้างรูปแบบของคลื่นสมองแบบเดียวกันกับเวลาที่คนกำลังฝันนั่นเอง

5. แมวไม่เข้าใจการโดนลงโทษ

การโดนลงโทษไม่มีผลใดๆ กับแมวเลย เพราะแมวไม่มีทางเข้าใจสิ่งที่คุณทำ ดังนั้นถ้าหากคุณต้องการฝึกแมวให้ทำตามคำสั่ง ก็ควรสอนด้วยความอดทน คำชม และตอบแทนด้วยรางวัล ก็จะเห็นผลลัพธ์ที่ดีกว่า

ทาสแมว

6. การแตะจมูกเป็นการทักทายอย่างหนึ่ง

เวลาที่เห็นแมวเอาจมูกมาแตะกันไม่ใช่เรื่องผิดปกติอะไร เพราะอาการดังกล่าวเป็นแค่การทักทายแบบแมวทั่วไป แต่อย่างไรพวกมันจะทักทายด้วยวิธีดังกล่าวกับแมวที่คุ้นเคยเท่านั้น ในขณะเดียวกันก็เป็นวิธีที่การสื่อสารเพื่อเช็กข้อมูลว่า อีกฝ่ายเป็นอย่างไรบ้างนั่นเอง

7. ไม่มีใครรู้ว่าเสียงคราง เกิดจากอะไร

กระทั่งถึงตอนนี้ นักวิทยาศาสตร์เองก็ยังไม่รู้ว่า เสียงครางของแมวเกิดขึ้นได้อย่างไร และเกิดจากระบบส่วนใดกันแน่ ในขณะที่คนส่วนใหญ่เชื่อว่า เกิดจากบริเวณลำคอ แต่ก็มีบางกลุ่มที่คิดว่า น่าจะเกิดจากระบบไหลเวียนเลือดมากกว่า

8. แมวครางเพื่อแสดงความพอใจ

ถึงแม้แมวจะครางเมื่อรู้สึกพึงพอใจเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็มีบางครั้งที่แมวครางเมื่อเกิดอาการเจ็บป่วยได้เช่นเดียวกัน และถ้าหากคุณคุ้นเคยกับแมวมากพอ ก็จะสามารถแยกความแตกต่างของเสียงครางของแมวได้ด้วยตัวเอง

9. แมวส่งเสียงครางได้นานกว่าที่คิด

หลายคนอาจจะคิดว่า แมวส่งเสียงครางเป็นบางเวลาและมักจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาสั้น ๆ ขณะที่กำลังมีความสุขหรือพึงพอใจ แต่แท้จริงแล้วแมวสามารถครางได้นานกว่านั้น แต่บางตัวอาจครางนานเป็นสัปดาห์เลยก็มี

10. ลูกแมวครางได้โทนเสียงเดียว

ถึงแม้ว่าในขณะที่เป็นลูกแมวจะสามารถส่งเสียงครางได้เพียงโทนเสียงเดียว แต่ทว่าหลังจากที่พวกมันโตขึ้น พวกมันจะสามารถส่งเสียงครางได้ถึง 2-3 โทนเสียงเลยทีเดียว

11. แมวใช้เสียงในการสื่อสารกับเจ้าของ

แมวจะสื่อสารกับเจ้าของด้วยโทนเสียงเดียวกัน กับที่พวกมันเคยใช้สื่อสารกับเจ้าของตั้งแต่ยังเป็นลูกแมว และจะรักษาโทนเสียงเหล่านั้นเอาไว้ใช้สื่อสารกับเจ้าของเสมอ แต่จะใช้โทนเสียงที่แตกต่างออกไปเมื่อสื่อสารกับแมวตัวอื่น

12. ช็อกโกแลต คืออาหารต้องห้าม

ไม่ใช่แค่สุนัขเท่านั้นที่ไม่สามารถกินช็อกโกแลตได้ แต่แมวก็กินขนมชนิดนี้ไม่ได้เหมือนกัน เพราะช็อกโกแลตมีสารบางชนิดที่เป็นอันตรายกับหัวใจ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้แมวเสียชีวิตได้เลย

13. ไม่ควรผูกมิตรด้วยการสบตา

เพราะแมวไม่ชอบการสบตา และจะรู้สึกเหมือนว่ากำลังโดนคุกคาม โดยหากแมวหันไปสบตากับอะไรบางอย่างโดยบังเอิญ พวกมันจะกระพริบตาและหรี่ตาลงทันที ถ้าหากคุณอยากจะผูกมิตรกับแมวก็ควรจะใช้วิธีอื่น หรือมองไปด้านข้างแทนที่จะสบตากับแมวโดยตรง

14. เนื้อสดช่วยบำรุงฟัน

เนื้อสัตว์สดๆ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัตว์ชนิดใดก็ตาม ต่างก็มีประโยชน์กับแมวด้วยกันทั้งนั้น เพราะการเคี้ยวเนื้อสดจะช่วยให้เหงือกและฟันของแมวมีสุขภาพที่ดีและแข็งแรงยิ่งขึ้น

15. ทนต่อความร้อนได้ดี

สาเหตุที่ทำให้แมวสามารถทนกับความร้อนได้ดีก็เพราะว่า บรรพบุรุษของแมวเป็นสัตว์ที่อาศัยอยู่ในทะเลทรายมาก่อน ไม่ได้เป็นสัตว์เลี้ยงที่อาศัยอยู่ในบ้านเหมือนอย่างที่เห็นในปัจจุบันนั่นเอง

16. ชีพจรเปลี่ยนแปลงตามอายุ

โดยปกติอัตราความเร็วของชีพจรของแมว เฉลี่ยแล้วอยู่ที่ประมาณ 160-240 ครั้งต่อนาที แต่ทั้งนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้โดยขึ้นอยู่กับช่วงอายุของแมว ซึ่งชีพจรของแมวจะเต้นช้าลงเมื่อแมวมีอายุเพิ่มขึ้น

17. แมวก็มีเหงื่อเหมือนกัน

ถึงแม้เจ้าของไม่อาจสัมผัสได้จากผิวหนังตามลำตัวของแมว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า แมวไม่มีเหงื่อซะเดียว เพราะจริง ๆ แล้วแมวก็มีเหงื่อเหมือนกัน เพียงแต่ว่าจะปรากฏบริเวณอุ้งเท้านั่นเอง

สรุปแล้ว ทาสแมวสามารถนำข้อมูลของบทความนี้ ไปใช้ในการตัดสินเลือกแมวมาเลี้ยงได้ตามความต้องการ และช่วยทำให้เข้าใจถึงนิสัยกับพฤติกรรมของแมว และเลี้ยงแมวอย่างถูกวิธีมากขึ้น ถึงแม้แมวจะเป็นสัตว์เลี้ยงตัวเล็กๆ แต่มีอะไรที่น่าค้นหามากมาย เป็นทั้งเพื่อนและเป็นตว์เลี้ยงยอดนิยมที่คนเลือกนำมาเลี้ยง

 

คำถามที่พบบ่อย (FAQ’s)

เลี้ยงแมวครั้งแรก สามารถเลี้ยงหลายตัวได้ไหม ?

  • การเลี้ยงแมวสามารถเลี้ยงตัวเดียว หรือหลายตัวได้ตามความสะดวกของผู้เลี้ยง

ถ้าเอาแมวตัวใหม่เข้าบ้าน ทำยังไงให้เข้ากับแมวตัวเก่าได้ ?

  • แมวเป็นสัตว์ที่ขึ้นชื่อเรื่องการหวงอาณาเขต ต้องให้เวลาปรับตัวพอสมควร ต้องปล่อยให้อยู่ด้วยกันเพื่อคุ้นชินกลิ่น

ที่มา

pet.kapook.com

https://pet.kapook.com/view88374.html

https://www.pexels.com/th-th/photo/979503/

https://www.pexels.com/th-th/photo/1687831/

 

สามารถติดตามอ่านบทความเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงได้ที่  megaprinting.net